Pages

Monday, August 24, 2020

'การเมือง-เศรษฐกิจ' คนละเรื่องเดียวกัน - กรุงเทพธุรกิจ

kuyupkali.blogspot.com

25 สิงหาคม 2563 | โดย [บทบรรณาธิการ]

53

สถานการณ์การชุมนุมประท้วงทางการเมืองที่ขยายวงกว้าง สร้างความหนักใจให้กับรัฐบาลในช่วงที่ต้องเร่งฟื้นเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 นาทีนี้รัฐบาลต้องตั้งสติแก้ปัญหาการชุมนุมประท้วงอย่างสันติวิธี การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก รังแต่จะทำให้เศรษฐกิจไทยพังพินาศ

การชุมนุมประท้วงทางการเมือง จากกลุ่มนิสิตนักศึกษา ในนาม “เยาวชนปลดแอก” ที่เริ่มขึ้นเมื่อกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะนัดรวมตัวชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง ขยายผลสู่แนวร่วมผู้ชุมนุมในกลุ่มอื่นๆ หลากระดับอายุ การศึกษา แม้แต่นักเรียนมัธยมในรั้วโรงเรียน การชุมนุมที่ทำท่าจะขยายวงกว้าง ต่อเนื่อง บานปลาย เช่นนี้ ย่อม “สร้างความหนักใจ” ให้กับรัฐบาล ในฐานะผู้บริหารประเทศที่มีงานหนักในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 จนสำนักพยากรณ์เศรษฐกิจต่างประเมินไปในทิศทางเดียวกันว่าปีนี้ เศรษฐกิจไทยไม่พ้นภาวะติดลบ โดยสภาพัฒน์ฯประเมินว่าจะติดลบ 7.3-7.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ หากยังมีปัจจัยการชุมนุมประท้วงทางการเมืองมาผสมโรง ย่อมเป็นการ “ซ้ำเติม” ภาวะเศรษฐกิจ ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า “เศรษฐกิจไทย” ในปีนี้จะทรุดหนักกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะต้องไม่ลืมว่า “บรรยากาศของบ้านเมือง” นับเป็นตัวแปรสำคัญ ต่อการตัดสินใจเดินหน้ากิจกรรมทางธุรกิจ การลงทุน ทั้งจากนักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างประเทศ แม้ว่าประเทศไทยจะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่แก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้ดีเพียงใด หากแต่ยังมีความวุ่นวายทางการเมือง ก็ย่อมทำให้เสน่ห์ในการดึงดูดการลงทุน ที่ว่าไทยพร้อมจะเป็น “ศูนย์กลาง” ในหลายธุรกิจหลังโควิด โดยเฉพาะด้านสุขภาพอนามัย คลายมนต์ขลังลง

ไม่ต้องอื่นไกล ในช่วง “ไตรมาสสุดท้าย” ของปี ซึ่งเรียกว่าเป็นฤดูขาย หรือ “ไฮซีซัน” เดิมทีจะเป็นนาทีทองเรียกทรัพย์เข้ากระเป๋าผู้ประกอบการ โดยในบางธุรกิจอย่างท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง ช่วงไฮซีซัน ถือเป็นช่วงผลักดันรายได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งปี ทว่าเมื่อต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ “ไม่ปกติ” จากโควิด ย่อมทำให้การโกยรายได้ถอยลง แต่พวกเขาก็ยังคงมี “ความหวังเล็กๆ” ว่าอย่างไรเสียก็ต้องมีรายได้มากกว่าช่วงที่ผ่านมา จนมาเบรกความคิด กับปัญหาการประท้วงยืดเยื้อ ที่ทำให้หวั่นใจว่า “ไฮซีซัน” นี้ก็ไม่น่าจะดีกว่าช่วงอื่นๆ ของปี 

เราเห็นว่าสถานการณ์เช่นนี้ เหมือนผู้บริหารประเทศกำลังนั่งอยู่บนหลังช้างตกมัน (งาแหลมคมข้างหนึ่งคือปัญหาเศรษฐกิจที่ต้องแก้ งาแหลมอีกข้างหนึ่งคือปัญหาการชุมนุมประท้วง) ที่พร้อมจะวิ่งพล่านไปขวิดทำลายสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า (ประเทศชาติ) เป็นหน้าที่ของควาญช้างที่จะต้องแก้ไขสถานการณ์ให้ช้างเชือกนี้สงบลง แต่ถ้าควาญช้างสติแตกไปอีกล่ะก็ ความเสียหายก็จะเกิดขึ้นอย่างยากประเมินค่า นาทีนี้จึงขอให้รัฐบาลตั้งสติแก้ปัญหาการชุมนุมประท้วงอย่างสันติวิธี การใช้ความรุนแรงไม่ใช่ทางออก รังแต่จะทำให้เศรษฐกิจไทยพังพินาศ ช้างเตลิดเข้าป่า ตัวอย่างมีให้เห็นดาษดื่น ปัญหาการเมืองกับเศรษฐกิจ จึงเป็นคนละเรื่องด้วยกัน ดีก็ดีไปด้วยกัน แย่ก็แย่ไปด้วยกัน โดยแท้

Let's block ads! (Why?)



"เศรษฐกิจ" - Google News
August 25, 2020 at 12:00AM
https://ift.tt/3j9sWCI

'การเมือง-เศรษฐกิจ' คนละเรื่องเดียวกัน - กรุงเทพธุรกิจ
"เศรษฐกิจ" - Google News
https://ift.tt/3crAsVL

No comments:

Post a Comment