
กกร.โยนผ้าขาว ปรับลดจีดีพีปี 63 เป็นติดลบ 9% ถึงติดลบ 7% ส่งออกติดลบ 12% ถึงติดลบ 10% เหตุโควิด-19 พ่นพิษ เศรษฐกิจไทยยังไร้แรงกระตุ้น จากการท่องเที่ยวและส่งออก “กนง.” คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ด้วยเหตุผลเศรษฐกิจไทยทยอยฟื้นตัว ชี้เป็นระดับต่ำสุดในประวัติศาสตร์
นายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.มีมติปรับลดตัวเลขกรอบประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ ใหม่ โดยปรับลดอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เป็น ติดลบ 9%ถึง ติดลบ 7% จากเดิม ติดลบ 8% ถึง ติดลบ 5% การส่งออกติดลบเป็น 12% ถึง ติดลบ 10% จากเดิม ติดลบ 10% ถึงติดลบ 7% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อคงเดิมที่ ติดลบ 1.5% ถึงติดลบ 1% เพราะประเมินว่าเศรษฐกิจไทยยังขาดแรงขับเคลื่อนที่สำคัญๆ จากภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก เพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้แจ้งให้ทราบว่า จะเชิญภาคเอกชนซึ่งรวมถึง กกร. ไปหารือแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งเอกชนได้เสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เหมือนกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ล่าสุด นายกรัฐมนตรี ก็ได้เห็นขอบในหลักการแล้ว และ กกร.จะได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เพื่อร่วมกันจัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ เสนอรัฐบาลในระยะต่อไป “
นอกจากนี้ คณะกรรมการปฏิรูปเศรษฐกิจ ก็จะมีการผลักดันแผนงานต่างๆ รวม 4 เรื่องเพื่อให้เกิดผลได้ผลเกิดขึ้นจริงๆ อาทิ การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ, การยกระดับการเกษตรที่มีมูลค่าสูง ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อสรุปแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจดังกล่าวแล้ว จะนำไปหารือและเสนอให้มีมาตรการ ช่วยเหลือจากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ต่อไป ล่าสุดตนได้หารือกับหอการค้าญี่ปุ่น ซึ่งได้ระบุถึงนักลงทุนญี่ปุ่น ต้องการเดินทางมายังประเทศไทยรวม 10,000 คน แต่ติดปัญหาโรงแรม ที่พร้อมเป็นสถานกักตัวทางเลือก (ASQ) ยังมีไม่เพียงพอ และยังมีนักลงทุนจากไต้หวัน เยอรมันและจีน ก็สนใจเดินทางมาไทยเช่นกัน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า มาตรการเยียวยาต่างๆ ของรัฐบาลที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนจากโควิด-19 จะทยอยหมดลงในเดือน ส.ค.-ต.ค.เช่น มาตรการยืดชำระหนี้ จึงเห็นว่ารัฐบาลควรต่ออายุ ไปจนถึงสิ้นปี เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน และให้ธุรกิจเดินต่อไปได้
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กล่าวว่า กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปีต่อเนื่องไป โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มทยอยฟื้นตัว ตามการผ่อนคลายมาตรการควบคุม การระบาดของโควิด-19 ในประเทศ และการทยอยฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับนี้ ถือว่าต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ และต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคนี้ ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบในปีนี้ แต่มีแนวโน้มกลับสู่กรอบเป้าหมายในปี 2564 ตามที่ประเมินไว้
“กนง.ยังต้องระวังความเสี่ยง จากโอกาสเกิดการระบาดระลอกที่ 2 โดยเห็นว่าควรผลักดันให้สถาบันการเงินเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ทั้งหนี้ครัวเรือนและธุรกิจ, เร่งรัดการให้สินเชื่อผ่านโครงการต่างๆ, สนับสนุนการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ, การพัฒนาทักษะแรงงานให้สอดคล้องกับบริบทใหม่หลังโควิด-19 เพราะการทยอยฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี”
ขณะที่ กนง.ได้ติดตามอัตราแลกเปลี่ยนใกล้ชิด เพราะค่าเงินบาทมีความผันผวนสูงขึ้น และเห็นว่าหากเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นเร็ว อาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้ จึงจะประเมินความจำเป็นของมาตรการดูแลเงินบาทที่เหมาะสมเพิ่มเติม และพร้อมใช้มาตรการเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่า กนง. จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายทั้งปีไว้ที่ 0.50%.
"เศรษฐกิจ" - Google News
August 06, 2020 at 05:01AM
https://ift.tt/3fEvNl6
“จีดีพี” ติดลบ 9% ส่งออกทรุด 12% กนง.คงดอกเบี้ย 0.50% ชี้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว - ไทยรัฐ
"เศรษฐกิจ" - Google News
https://ift.tt/3crAsVL
No comments:
Post a Comment