ภาคธุรกิจในพื้นที่ใกล้ถูกถอดเครื่องช่วยหายใจ รอวันตาย
เขย่าปรากฏการณ์ทัวร์ลงใส่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไล่ดะไปถึงรัฐบาล ศบค.และกองทัพ โทษฐานการ์ดตก ให้สิทธิพิเศษวีไอพีต่างแดน ทั้งทหารอียิตป์และคณะทูตซูดานเข้าเมืองไทย ไม่ถูกกักตัว 14 วัน
โลกโซเชียลเกลื่อนด้วยแฮชแท็กเผ็ดร้อนถล่มรัฐบาลเละเทะไม่มีชิ้นดี
อารมณ์ “ลุงตู่” อยู่ในขั้นซีเรียส หัวฟัดหัวเหวี่ยงใส่สื่อ ประโคมข่าวจนชาวบ้านเกิดอาการแพนิก
แม้จะแอ่นอกขอโทษคนไทย แสดงความรับผิดชอบ แต่ก็เบรกคณะทัวร์ลงของประชาชนไม่อยู่ ต้องบินด่วนไปติดตามสถานการณ์ ให้กำลังใจชาวระยองถึงที่ แต่ก็ถูกวัยรุ่นเจ้าถิ่นลูบคม ถือป้ายขับไล่ เจ้าหน้าที่ต้องไล่ตะครุบตัวให้วุ่น ก่อนที่นายกฯจะเดินทางไปถึง
ในภาวะที่คนไทยกำลังหลอน ผวาเชื้อร้ายจะสร้างความหายนะรอบใหม่ อุตส่าห์ช่วยกันอดทนจนแทบจะอดตาย รักษาวินัยเคร่งครัด แต่มาพังเพราะการให้อภิสิทธิ์คนต่างแดน
ต้นทุนผู้นำหายวับจากความสะเพร่าช็อตสำคัญ สัญญาณเตือนภัยรัฐบาลอยู่ลำบากดังถี่ขึ้น
ต้องรีบยกเครื่องการทำงาน เตรียมยกเลิกการให้สิทธิพิเศษวีไอพี ใครเหยียบแผ่นดินไทยต้องถูกกักตัว เร่งกู้ความเชื่อมั่นจากประชาชนกลับคืนมาโดยเร็ว
เลิกยื้อให้อภิสิทธิ์คนต่างแดน จะสองมาตรฐาน เลือกปฏิบัติคนไทยกับคนต่างชาติ ต่างกันไม่ได้
เช่นเดียวกับการปรับ ครม.ที่ยื้อต่อไปไม่ไหว หลัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และก๊วน 4 กุมาร ทั้ง นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมยื่นใบลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ
เปิดทางให้ “ลุงตู่” ปรับ ครม.อย่างอิสระ ลดความกดดันทางการเมือง ไม่ให้พุ่งใส่นายกฯ
ถึงนายอุตตมจะบอกเป็นการจากกันด้วยดี ไม่มีแรงกดดันบีบให้ลาออก แต่ก็เป็นแค่การพูดตามมารยาท
ตามสภาพความเป็นจริงที่เห็นกันอยู่ นายสมคิดและทีม 4 กุมารถูกก๊วนแห่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐคนใหม่ ไล่เจาะยางให้ลาออกมาตั้งแต่ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ต่อเนื่องมาถึงเก้าอี้รัฐมนตรี จนต้องคายฟันยาง ยอมแพ้ไม่สู้ต่อ
ในภาวะที่ “ลุงตู่” เองตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไลน์หา “สมคิด” ยอมรับลำบากใจ แต่จำเป็นต้องปรับ ครม.เศรษฐกิจด้วยเหตุผลทางการเมือง
ไวรัสการเมืองแพร่เชื้อเร็วกว่าโควิด เร่งโปรแกรมปรับ ครม.มาไวกว่าที่คิด รอวัดใจ “นายกฯลุงตู่” จะกล้าดึงเก้าอี้รัฐมนตรีสำคัญมาเป็นโควตากลาง กุมอำนาจตัดสินใจเลือกคนเองหรือปล่อยให้พี่ใหญ่ชี้ขาด
อย่างรายชื่อทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ที่สะพัดออกมา อาทิ นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย ที่จะมาเป็น รมว.คลัง นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร อดีต รมช.คมนาคม ที่คั่ว รมว.พลังงาน นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒน์ ที่จะมานั่ง รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูการเบิกจ่ายเงินฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 4 แสนล้านบาท
ก็ยังไม่รู้ว่าจะเซย์เยส ตอบตกลงมารับเผือกร้อนครบทีมหรือไม่
ตามเดิมพันประเทศที่มีมหาวิกฤติเศรษฐกิจรออยู่ ต้องทำงานภายใต้สภาวะถังแตก เศรษฐกิจกำลังดิ่งเหว งบประมาณมีจำกัด ที่สำคัญไม่รู้จะถูกแทรกแซงการทำงานจากบรรดาขาใหญ่ในรัฐบาลหรือไม่
โจทย์มหาหินไม่มีโอกาสได้แก้ตัว ใครมาเป็นก็กระอัก จะกล้าเปลืองตัวรึเปล่า
หรือเก้าอี้ รมว.พลังงาน แหล่งขุมทรัพย์มหาศาลที่หลายกลุ่มจ้องช่วงชิง คงได้แย่งกันฝุ่นตลบ จากที่เคยจับมือประสานผลประโยชน์กัน อาจถึงคราต้องมาฟาดฟันกันเอง
ยังไม่นับรวมตำแหน่งสำคัญอื่นๆที่อาจเปลี่ยนตัวผู้เล่น ตัวพี่ใหญ่เองก็แว่วๆขอขยับไปคุมมหาดไทย ควบคุมฐานเสียงการเลือกตั้ง ต้องไปห้ำหั่นกับ “น้องรอง” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะหลีกทางให้หรือไม่
แนวโน้มได้ทับไลน์ เหยียบเท้ากันให้วุ่น มีเรื่องปวดหัวให้ “บิ๊กตู่” ต้องแก้อีกหลายยก
การสกรีนตัวหาทีม ครม.เศรษฐกิจชุดใหม่ที่ยากแล้ว แต่การแบ่งเค้กให้สมประโยชน์ทุกฝ่ายเป็นโจทย์ยากกว่า
ถ้าบาลานซ์กันไม่ลงตัวในห้วงขาลง ดูแล้วทำงานต่อยาก!!!
ทีมข่าวการเมือง
"เศรษฐกิจ" - Google News
July 17, 2020 at 05:02AM
https://ift.tt/2Bc6HvG
หินกว่าหาทีมเศรษฐกิจ - ไทยรัฐ
"เศรษฐกิจ" - Google News
https://ift.tt/3crAsVL
No comments:
Post a Comment