Pages

Saturday, June 13, 2020

EIC ชี้ 'เศรษฐกิจไทย' หลังโควิด ฟื้นตัวช้า-ซบเซากว่าก่อนวิกฤติ - กรุงเทพธุรกิจ

kuyupkali.blogspot.com

14 มิถุนายน 2563

152

"EIC" ชี้กิจกรรมทาง "เศรษฐกิจ" ในไทยบางส่วนเริ่มกลับมาหลังการผ่อนคลายล็อกดาวน์ แต่ฟื้นตัวช้า และยังซบเซากว่าช่วงก่อนวิกฤติ COVID-19 ค่อนข้างมาก

EIC หรือศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์แบบ high frequency ที่สามารถบอกถึงสถานการณ์ปัจจุบันได้เร็วกว่าข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคทั่วไป พบว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในไทยบางส่วนเริ่มกลับมาหลังการผ่อนคลายล็อกดาวน์ แต่ยังเป็นการฟื้นตัวอย่างช้าๆ และยังซบเซากว่าช่วงก่อนวิกฤติ COVID-19 ค่อนข้างมาก

โดยมาตรการล็อกดาวน์ที่ถูกนำมาใช้ควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 และทำให้เศรษฐกิจหลายส่วนหยุดชะงักไปนั้น ได้เริ่มทยอยผ่อนคลายลงหลังจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงและอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐได้มีการผ่อนคลายในระยะที่หนึ่งไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค. และระยะที่สองเมื่อวันที่ 17 พ.ค. เพื่อให้กิจการหลายประเภทสามารถกลับมาให้บริการอีกครั้ง

EIC พบว่าหลังการผ่อนคลายนั้น กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนได้เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวอย่างช้าๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางออกนอกบ้านที่มีเพิ่มมากขึ้น (ข้อมูลจาก COVID-19 Community Mobility Report ของ Google) การเริ่มเปิดให้บริการของธุรกิจทั้งห้างร้านและโรงแรม (ข้อมูลจากเว็บไซต์ ไทยชนะ.com และ TripAdvisor.com) รวมไปถึงการเริ่มกลับมาประกาศจ้างงานของหลายๆ ธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค (ข้อมูลจากเว็บไซต์ JobsDB.com) โดยรายละเอียดของแต่ละชุดข้อมูลมีดังนี้ 

  • ข้อมูล Community Mobility Reports ของ Google บ่งชี้คนเดินทางออกนอกบ้านมากขึ้น หลังคลายล็อกดาวน์

Google เปิดเผยข้อมูลการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ของคนในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเดินทางออกนอกบ้านของคนไทยได้ลดลงอย่างมากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ COVID-19 สูง และยังมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด เช่น การเดินทางไปยังสถานีขนส่ง (transit station) ลดลงเกือบ -70% หรือการเดินทางไปยังสถานที่ประเภทพื้นที่ค้าปลีกและสันทนาการ (retail & recreation) เช่น ห้างสรรพสินค้าที่ลดลงกว่า -50% ในช่วงประมาณต้นเดือน เม.ย. เทียบกับปริมาณการเดินทางในช่วงต้นปี

159198375580

แต่หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มลดต่ำลง ประกอบกับมาตรการล็อกดาวน์เริ่มผ่อนคลาย การเดินทางออกนอกบ้านไปยังสถานที่ต่างๆ จึงเริ่มฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด อย่างไรก็ดี จากข้อมูลล่าสุดในช่วงกลางเดือน พ.ค. กิจกรรมการเดินทางในภาพรวมส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตัวเลขช่วงต้นปี โดยมีเพียงการเดินทางไปยังสถานที่ประเภทร้านค้าและร้านขายยา (grocery & pharmacy) เท่านั้นที่กลับมาเท่าช่วงก่อนล็อกดาวน์ ขณะที่การเดินทางออกจากบ้านไปยังสถานที่ต่างๆ ยังคงลดลงเฉลี่ย -22.8% ถึง -39.5%

  • ข้อมูล ไทยชนะ.com และ TripAdvisor.com สะท้อนการเริ่มกลับมาดำเนินการให้บริการของหลายธุรกิจ

EIC ทำการเก็บข้อมูลจำนวนกิจการที่ลงทะเบียนจากการเชื่อมต่อ Application Program Interface (API) กับเว็บไซต์ไทยชนะ.com ในกรุงเทพมหานครและอีก 12 จังหวัดที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ พบว่าจำนวนกิจการที่ให้บริการในพื้นที่ดังกล่าวมีการลงทะเบียนรวมในวันที่ 27 พ.ค. อยู่ที่ 70,425 กิจการ เพิ่มขึ้นจาก 40,537 กิจการในวันที่ 20 พ.ค. ซึ่งบ่งชี้การเปิดให้บริการที่มากขึ้น

ทั้งนี้จากข้อมูลดังกล่าว EIC มีข้อสังเกตว่า จำนวนร้านค้าในห้างสรรพสินค้าในช่วงแรกหลังเริ่มคลายล็อกดาวน์จะมีสัดส่วนค่อนข้างสูง โดยในวันที่ 20 พ.ค. มีจำนวนถึง 26,450 ร้านค้า คิดเป็นสัดส่วน 65.2% ของจำนวนการลงทะเบียนทั้งหมดในพื้นที่ดังกล่าว สะท้อนถึงการที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ มีการเตรียมความพร้อมในการกลับมาเปิดให้บริการ

อย่างไรก็ดี ร้านค้าประเภทอื่นๆ ก็ได้ทยอยเปิดให้บริการ ตามมาด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนร้านที่สูงกว่าอย่างชัดเจนในสัปดาห์ถัดมา โดยมีการเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ขณะที่ร้านค้าในห้างฯ มีจำนวนเพิ่มขึ้นที่ 31% ในช่วงเดียวกัน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากการที่กิจการโดยทั่วไปเริ่มมีการเรียนรู้แนวทางปฏิบัติในการให้บริการในสภาวะ new normal กันมากขึ้น

ในทำนองเดียวกัน ข้อมูลห้องพักที่เปิดให้จองออนไลน์บนเว็บไซต์ TripAdvisor.com ที่เคยมีจำนวนลดลงไปสูงสุดถึง -52.1% เมื่อเทียบกับจำนวนในช่วงเริ่มต้นของล็อกดาวน์ ก็เริ่มกลับมามีจำนวนข้อมูลเพิ่มมากขึ้นในระยะหลัง

โดยมีอัตราการเปลี่ยนแปลงเป็นลบที่น้อยลงเหลือ -27.1% ณ วันที่ 28 พ.ค. สะท้อนการกลับมาเปิดกิจการของโรงแรม นำโดยกลุ่มโรงแรม 3 ดาวลงไป และ hostel (budget) ขณะที่โรงแรมระดับ 4 และ 5 ดาว (luxury) ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการพึ่งพาลูกค้าต่างชาติที่ยังมีข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ

  • ข้อมูล JobsDB.com แสดงการฟื้นตัวของการเปิดรับสมัครงานในธุรกิจท่องเที่ยวและ consumer retail ที่เริ่มกลับมาดำเนินการ

EIC ทำการ web scraping ข้อมูลจากเว็บไซต์ JobsDB.com ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ในช่วงสัปดาห์ล่าสุดของข้อมูล (วันที่ 21-27 พ.ค.) จำนวนประกาศรับสมัครงานรวมเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับจำนวนในสัปดาห์ก่อนคลายล็อกดาวน์ระยะที่หนึ่ง (วันที่ 26 เม.ย.-2 พ.ค.) และเป็นการเพิ่มขึ้นในหลายประเภทธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว และ consumer retail เช่น เสื้อผ้า ค้าปลีก ที่มีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าธุรกิจประเภทอื่นๆ

สอดคล้องกับการกลับมาดำเนินการของธุรกิจเหล่านี้หลังจากที่ถูกจำกัดจากมาตรการ lockdown อย่างไรก็ดี จำนวนประกาศรับสมัครงานโดยเฉลี่ยในปัจจุบันในภาพรวมยังต่ำกว่าระดับในช่วงเริ่มมาตรการล็อกดาวน์ (วันที่ 21–27 มี.ค.) อยู่ถึง -25.4%

แม้จะเริ่มฟื้นตัวหลังการผ่อนคลายล็อกดาวน์ แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่ยังมีปริมาณน้อยเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า EIC คาดว่าจะใช้เวลานานในการกลับไปสู่จุดเดิม โดยยังต้องเฝ้าระวังการระบาดระลอกที่สอง กิจกรรมต่างๆ ตามข้อมูลข้างต้น ทั้งการเดินทางออกนอกบ้าน การให้บริการของห้างร้านและโรงแรม และการเปิดรับสมัครงานออนไลน์ยังต่ำกว่าช่วงก่อนวิกฤติค่อนข้างมาก แม้จะฟื้นตัวมาบ้างในระยะหลัง และเนื่องจากการดำเนินไปของกิจกรรมต่างๆ

ในช่วงหลังจากนี้มีแนวโน้มจะต่างไปจากเดิม เช่น การทำงานที่บ้านผ่านระบบออนไลน์มีสัดส่วนมากขึ้น การให้บริการแก่ลูกค้าในพื้นที่ค้าปลีก ร้านอาหารและโรงแรม มีการจำกัดจำนวนและระยะห่างมากขึ้น ประกอบกับในฝั่งของผู้บริโภคเองก็ยังมีอุปสรรคจาก ทั้งกำลังซื้อที่ลดลงและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ยังอยู่ในระดับต่ำ รวมไปถึงการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ยังทำได้ยาก

ด้วยเหตุนี้ EIC จึงมองว่าหลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะส่วนที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ น่าจะยังต้องใช้เวลานานก่อนจะฟื้นกลับไปยังจุดเดิม ทั้งนี้อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องให้ความสำคัญคือ การเฝ้าระวังการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่สอง ที่หากเกิดขึ้นจะนำไปสู่การกลับมาของมาตรการ lockdown ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วทรุดตัวลงมากกว่าเดิม

Let's block ads! (Why?)



"เศรษฐกิจ" - Google News
June 14, 2020 at 01:29AM
https://ift.tt/3e3r7VU

EIC ชี้ 'เศรษฐกิจไทย' หลังโควิด ฟื้นตัวช้า-ซบเซากว่าก่อนวิกฤติ - กรุงเทพธุรกิจ
"เศรษฐกิจ" - Google News
https://ift.tt/3crAsVL

No comments:

Post a Comment